แพทย์ทางเดินปัสสาวะ หรือ อายุรแพทย์ทางเดินปัสสาวะ (Urologist) เป็นแพทย์เฉพาะทางที่ให้การรักษาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะในเพศชายและหญิง รวมถึงระบบสืบพันธุ์ในเพศชาย โรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก ดังนั้นการเข้าพบแพทย์เฉพาะทางเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

แพทย์ทางเดินปัสสาวะคือใคร?

แพทย์ทางเดินปัสสาวะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลและรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับ ไต กระเพาะปัสสาวะ ท่อไต ต่อมลูกหมาก อวัยวะสืบพันธุ์ชาย รวมถึงภาวะผิดปกติต่างๆ ของระบบปัสสาวะ พวกเขาผ่านการฝึกอบรมเฉพาะด้านเพื่อวินิจฉัยและรักษาโรคที่ซับซ้อนเกี่ยวกับระบบนี้

โรคและภาวะที่แพทย์ทางเดินปัสสาวะรักษา

1. โรคทางเดินปัสสาวะในผู้ชายและผู้หญิง

  • นิ่วในไต – ก้อนแข็งที่เกิดขึ้นในไตและอาจทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง
  • กระเพาะปัสสาวะอักเสบ – อาการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะที่ทำให้เกิดอาการปวดและปัสสาวะบ่อย
  • ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ – อาการที่ส่งผลต่อการควบคุมการปัสสาวะ อาจเกิดขึ้นในวัยสูงอายุหรือหลังการคลอดบุตร
  • ไตวาย – ภาวะที่ไตไม่สามารถกรองของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. โรคเฉพาะในผู้ชาย

  • ต่อมลูกหมากโต (BPH – Benign Prostatic Hyperplasia) – ภาวะที่ต่อมลูกหมากขยายตัวผิดปกติ ทำให้ปัสสาวะติดขัด
  • มะเร็งต่อมลูกหมาก – โรคที่พบบ่อยในผู้ชายสูงอายุ หากตรวจพบเร็วสามารถรักษาได้
  • ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction – ED) – ภาวะที่อวัยวะเพศไม่แข็งตัวเพียงพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์
  • ภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย – ปัญหาการผลิตอสุจิที่อาจเป็นสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก

3. โรคเฉพาะในผู้หญิง

  • ภาวะกระเพาะปัสสาวะหย่อน – เกิดจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอ ทำให้ปัสสาวะเล็ด
  • ภาวะปัสสาวะบ่อย – การปัสสาวะบ่อยผิดปกติ อาจเกิดจากการติดเชื้อหรือภาวะอื่นๆ
  • ภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI) – ภาวะติดเชื้อที่พบบ่อยในผู้หญิง ทำให้ปัสสาวะแสบขัดและมีกลิ่นผิดปกติ

กระบวนการตรวจวินิจฉัยทางเดินปัสสาวะ

แพทย์ทางเดินปัสสาวะใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อช่วยวินิจฉัยโรค เช่น

  • การตรวจปัสสาวะ (Urinalysis) – ตรวจหาการติดเชื้อหรือความผิดปกติอื่นๆ
  • อัลตราซาวด์ (Ultrasound) – ตรวจดูไต กระเพาะปัสสาวะ และต่อมลูกหมาก
  • ซีทีสแกน (CT Scan) – ให้ภาพที่ละเอียดเพื่อช่วยวินิจฉัยนิ่วในไตและความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ
  • การส่องกล้องทางเดินปัสสาวะ (Cystoscopy) – ใช้กล้องขนาดเล็กส่องเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะเพื่อตรวจหาปัญหาต่างๆ

วิธีป้องกันปัญหาทางเดินปัสสาวะ

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 6-8 แก้ว
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูงเพื่อลดความเสี่ยงของ นิ่วในไต
  • หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะนานเกินไป
  • รักษาความสะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์และปัสสาวะหลังการมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อ มะเร็งทางเดินปัสสาวะ

เมื่อไหร่ควรพบแพทย์ทางเดินปัสสาวะ?

หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์ทางเดินปัสสาวะ

  • ปัสสาวะบ่อยผิดปกติหรือมีเลือดปน
  • ปวดบริเวณไต หรือปวดแสบขณะปัสสาวะ
  • ปัญหาด้านการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย
  • ปัสสาวะลำบากหรือกลั้นปัสสาวะไม่ได้
  • ตรวจพบความผิดปกติของไต หรือมีความเสี่ยงโรคทางเดินปัสสาวะ

สรุป

แพทย์ทางเดินปัสสาวะมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพของระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์ในเพศชาย หากคุณมีอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบปัสสาวะ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม การดูแลสุขภาพปัสสาวะที่ดีช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ และทำให้ชีวิตมีคุณภาพมากขึ้น

ติดต่อเรา