ฝังมุก อย่างปลอดภัย เพิ่มอรรถรสให้กับชีวิต
เป็นการฝังวัสดุเข้าไปที่บริเวณอวัยวะเพศ โดยใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง เช่น มุกทางการแพทย์ พลาสติก หรือวัสดุสังเคราะห์พิเศษที่ปลอดภัยต่อร่างกาย เพื่อเพิ่มความมั่นใจและเพิ่มอรรถรสให้กับคู่นอนมากขึ้น
วัสดุที่ใช้ในการฝัง
มุกที่ใช้ในการฝัง มีวัสดุหลากหลายแบบให้เลือก เช่น ซิลิโคน ไทเทเนี่ยม หรือสามารถเลือกเป็นวัสดุอื่นๆได้ แต่ควรเป็นวัสดุที่ปลอดภัย ไม่ทำปฏิกิริยากับร่างกาย และไม่ควรใช้วัสดุที่แตกได้ง่าย เช่น แก้ว ที่มักพบว่ามีการรับฝังมุกตามร้าน เพราะถ้ามีการแตกของวัสดุจะทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะเพศและท่อปัสสาวะได้
รูปร่างของมุกมีได้หลายแบบ ทั้งแบบทรลกลม ทรงรี หรือเป็นรูปทรงต่างๆ โดยปริมาณมุกที่ใช้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ถึงความต้องการ และจำนวนที่ปลอดภัย ปกติจะแนะนำที่ 3-5 เม็ด
ข้อดีของการฝังมุก
ข้อดีของการฝังมุกที่คลินิก คือความปลอดภัย โดยเฉพาะการผ่าตัดที่ปลอดเชื้อ เทคนิควิธีการผ่าตัดพิเศษเพื่อลดการดึงรั้งของแผล และวัสดุของมุกที่มีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้การฝังมุกยังมีข้อดีอีกหลายข้อ
- ความสวยงาม
- เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่ฝัง
- เพิ่มสมรรถภาพทางเพศและความสุขให้กับคู่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคู่นอนของเราว่าชอบหรือไม่
- พักฟื้นเร็ว เจ็บน้อย ทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลย
ข้อระวังของการฝังมุก
การฝังมุกเป็นหัตถการที่ความเสี่ยงค่ำ โอกาสการเสียเลือดน้อยมาก แต่ก็ข้อควรระวังหรือผลข้างเคียงที่อาจขึ้นได้หลังฝังมุกดังต่อไปนี้
- อาจทำให้เกิดการดึงรั้งและเจ็บบริเวณที่ฝัง
- อาจเกิดการติดเชื้อบริเวณที่ฝังหากดูแลความสะอาดไม่ดี
- อาจทำให้เกิดอาการเจ็บกับคู่นอนได้
- ออาจเกิดการแพ้หรือร่างกายปฏิเสธมุกที่ฝัง ซึ่งอาจจะต้องมาเอาออก หรือหากปล่อยไว้อาจทำให้อวัยวะเพศติดเชื้อหรือเกิดเนื้อตาย
ขั้นตอนการฝังมุก
1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบสุขภาพ
2. เลือกวัสดุที่เหมาะสม
3. ขั้นตอนการผ่าตัด :
ฉีดยาชาเฉพาะที่และฝังมุกตามตำแหน่งที่ปรึกษาโดยใช้เทคนิคเฉพาะทางเพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงามและเป็นธรรมชาติที่สุดส่วนที่
การดูแลหลังการผ่าตัด
แม้ว่าการฝังมุกจะค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงเล็กน้อย เช่น การติดเชื้อ หรือการแพ้วัสดุ ดังนั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ โดยปกติแผลจะหายใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน